เรื่องสั้น      "ความรัก" ไม่ใช่พระเจ้า (ตอนจบ)
 

"ความรัก" ไม่ใช่พระเจ้า (ตอนจบ)

ฟาง เกลียวกรอบ


 



2 ปีผ่านเลยไปเร็วราวกับติดปีกบิน เห็นเพื่อบ้านเดินกลับจากมัสยิดหลังละหมาดอัศริ นูรีละหมาดไมได้เพราะอยู่ในช่วงเวลาของประจำเดือน พระองค์อัลลอฮฺทรงรอบรู้ พระองค์ทรงอนุมัติให้สตรีมุสลิมที่อยู่ในช่วงวันที่มีประจำเดือนให้ยกเว้นการทำละหมาด เพราะความไม่ปกติในร่างกายของพวกเธอ แต่ขณะเดียวกันพระองค์ก็ทรงประทานผลบุญให้แก่พวกเธอในช่วงนั้นด้วย ซึ่งผิดกับบุรุษเพศจะไม่มีการยกเว้นในเรื่องละหมาดเลย แม้ว่าเวลาเจ็บป่วยอย่างแสนสาหัส หรือแม้แต่ในสนามรบก็จะต้องทำการละหมาดโดยไม่ได้ยกเว้น

ทำไมมนุษย์ไม่ยอมมอบความภักดีและความรักที่ยิ่งใหญ่ให้แก่พระองค์อัลลอฮฺแต่เพียงผู้เดียว ส่วนความรักที่เหลือนั้น แบ่งกันไปตามสัดส่วนของเหตุผล หรือว่ามนุษย์เกิดมาในโลกนี้ และมีชีวิตอยู่ทั้งชีวิต ก็เพื่อที่จะเติมเต็มรสชาติของชีวิตด้วยกามารมณ์ และเพื่อที่จะลิ้มรสของการเสพสุขกับคนที่รักและพึงพอใจเท่านั้นหรือ

และเมื่อไม่ได้ดั่งใจปรารถนาก็คิดว่า ชีวิตนี้ผิดหวังไร้ค่า.. หมดหวัง...ยอมแม้กระทั่งคิดฆ่าตัวตาย... ช่างน่าละอายจริงๆ นะ ถ้าใครๆ เขารู้ว่าคิดถึงความรักและให้ความหมายของมันได้เพียงแค่นี้

นูรีนั่งนับปลาหางนกยูงในตู้ปลาว่ามีด้วยกันกี่ตัว ปลาหางนกยูงมันยังไม่รู้เลยว่า ใครคือผู้ให้อาหารแก่มัน... ใครคนนั้นเขามีความสุขความทุกข์หรือระทมขมขื่นอย่างไร มันจะรู้ไหมว่า พวกมันทั้งหมดที่อยู่ในตู้ปลานั้นมีด้วยกันกี่ตัว แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่ามันไม่สามารถจะนับได้ว่าหินก้อนเล็กๆ ที่ประกอบอยู่ในตู้ปลานั้นมีกี่ก้อน... ต้นไม้ที่ประดับอยู่ในตู้นั้นมีกี่ต้น.. น้ำในตู้นั้นมีกี่ลิตร.. และตู้ปลานั้นมีความกว้างยาวเท่าไหร่

หลายคนคงจะแย้งว่า ก็สัตว์มันไม่มีความจำหรือความคิด และบางคนอาจจะเลยเถิดไปถึงกับว่าสัตว์มันไม่มีสมอง แต่จริงๆ แล้ว สัตว์ก็มีมันสมองที่มีลักษณะเป็นก้อนสีขาวข้นๆ คล้ายกับมันสมองของมนุษย์

ส่วนความจำ สัตว์ก็มีความจำเหมือนกัน เช่น นกบางชนิดยังสามารถบินอพยพหลบฤดูหนาวข้ามทวีปหนึ่งไปยังอีกทวีปหนึ่งได้โดยไม่ต้องใช้เข็มทิศชี้ทิศทางอพยพให้แก่มัน และแม่ไก่ ก็สามารถจำลูกที่มันเพิ่งฟักออกมาใหม่ๆ ได้ เพราะถ้ามีลูกไก่ตัวเล็กๆ จากแม่อื่นหลงเข้ามาในครอกลูกของมัน มันก็จะจิกไล่ทั้งๆ ที่บางครั้งคนที่เลี้ยงเองก็ยังไม่สามารถแยกแยะออกได้ว่าลูกไก่ตัวไหนเป็นลูกของแม่ตัวใด

และแม้กระทั่งแม่แมวที่เพิ่งออกลูกใหม่ๆ ก็จะรีบเคลื่อนย้ายลูกของมันหนีจากที่นึ่งไปยังที่หนึ่งบ่อยๆ ครั้ง นับว่าพาลูกหนีตัวผู้ที่จะแอบมากินลูกของมัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้น ทำนองนี้มันคงไม่ใช่สัญชาติญาณตามธรรมชาติเพียงอย่างเดียว แต่สัตว์เหล่านี้จะต้องมีความจำและความคิดเข้าเกี่ยวข้องด้วยอย่างแน่นอน

บ่อยครั้งที่เราได้ยินว่า คนเราจะเชื่อว่าพระเจ้ามีจริงได้อย่างไร ก็ในเมื่อไม่สามารถที่จะมองเห็นหรือพิสูจน์ให้เห็นจริงได้.. แม้มนุษย์อาจจะลืมไปว่า มนุษย์นั้นมีอวัยวะต่างๆ ที่ทำหน้าที่อยู่ภายในร่างกายอย่างมีขอบเขตจำกัด ทั้งในด้านประสิทธิภาพและศักยภาพ

คนตาบอดบอดว่าไม่มีภูเขา เพราะเขาไม่อาจจะสัมผัสมันได้ คนหูหนวกก็บอกว่าไม่มีเสียงลมพัด ก็เพราะเหตุว่าเขาไม่ได้ยิน ส่วนมันสมองของมนุษย์ก็มีขอบเขตจำกัดทั้งด้านความจำและความคิด จำได้ในระยะเวลาหนึ่งและก็ลืมอีกในระยะเวลาหนึ่ง บางครั้งก็คิดทบทวนสิ่งที่เคยคิดไว้อย่างสวยหรูนั้นไม่ได้เอาเสียเลย...

เพราะฉะนั้น ในความสามารถที่มีขอบเขตจำกัดของมนุษย์เช่นนี้ เขาจะสามารถพิสูจน์การมีอยู่ของพระเจ้าได้อย่างไร... ให้ปลาหางนกยูงมันรู้จักเจ้าของตู้ปลาที่ให้อาหารแก่มันทุกๆ วันนั้นว่าชื่ออะไร คงจะง่ายกว่าการที่มนุษย์คิดจะพิสูจน์พระเจ้าและคุณลักษะทั้งหมดของพระองค์

เพราะแม้แต่สิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้างมันไว้ และมนุษย์สามารถที่จะมองเห็นได้ว่ามีอยู่จริง แต่มนุษย์ก็ยังพิสูจน์ได้ไม่หมด

ลองให้ใครสักคนนับใบไม้โลกนี้ดูซิว่ามันมีอยู่ทั้งหมดกี่ใบ และดวงดาวในท้องฟ้านั้นมีทั้งหมดกี่ดวง ระบบสุริยจักรวาล แกแล็คซี่ต่างๆ ที่เคยค้นพบและเพิ่งจะค้นพบใหม่ๆ ว่ามันมีจำนวนเท่าไร และมันเกิดขึ้นได้อย่างไร

บทเรียนในวิชาวิทยาศาสตร์เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยตามที่มนุษย์ได้ค้นพบและสามารถที่จะพิสูจน์อะไรบางอย่างได้ อย่างเช่นเรื่องแกแล็คซี่ตามที่หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 14เมษายน พ.ศ.2531 ได้รายงานไว้ว่า

“...ก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์มีความเชื่อกันว่า การก่อตัวของแกแล็คซี่ต่างๆ นั้นเกิดขึ้นภายหลังการระเบิดครั้งใหญ่ประมาณ 4 พัน ถึง 5 พัน ล้านปี แต่จากการค้นพบครั้งล่าสุดที่ทำให้เชื่อกันว่า แกแล็คซี่ต่างๆ เกิดขึ้นหลังการระเบิดครั้งใหญ่เพียงไม่เกิน 1 พันล้านปีเท่านั้น

แกแล็คซี่เก่าที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมาก่อนหน้านี้ มีอายุประมาณ 10 ถึง 11 พันล้านปี และเชื่อกันว่าการระเบิดครั้งใหญ่ในอวกาศอันเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดแกแล็คซี่ต่างๆ นั้น เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 15 พันล้านปีเท่านั้น

กลุ่มนักดาราศาสตร์ในฮาวายระบุ ได้ค้นพบแกแล็คซี่เก่าแก่อายุประมาณ 13 ถึง 14 พันล้านปีในห้วงอวกาศ ซึ่งอาจเป็นผลให้ทฤษฎีที่ได้รับการเชื่อถือมานานเกี่ยวกับธรรมชาติของจักรวาลต้องมีการนำมาทบทวนใหม่

สำหรับแกแล็คซี่ที่ค้นพบใหม่นี้อยู่ห่างจากโลกออกไปประมาณ 12 พันปีแสง และเป็นแกแลคซี่ที่เก่าแก่ที่สุดและอยู่ห่างไกลที่สุดเท่าที่เคยเชื่อกันว่าการเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ในอวกาศที่ก่อให้เกิดการต่อตัวของจักรวาลขึ้นนั้นจะต้องเปลี่ยนแปลงไป....”

 





ไม่น่าแปลกใจสักนิดเลยที่เอกอัลลอฮฺได้ทรงสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่และมีจำนวนมหาศาล เพราะพระองค์ผู้ทรงสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่และมีจำนวนมหาศาล เพราะพระองค์ผู้ทรงมีวิทยะปรีชาญาณอันสูงสุดและไร้ขอบเขตที่จำกัด แต่ที่น่าแปลกใจก็คือว่า พระองค์ทรงสร้างสิ่งเล็กๆ เช่นมดได้อย่างไร ปากมด ลำไส้ กระเพาะอาหาร การขับถ่าย และการสืบพันธุ์ของมดได้ถูกจัดไว้สมดุลกันอย่างไร แต่ซุบฮานัลลอฮฺ (มหาบริสุทธิ์แต่พระองค์) พระองค์ไม่ได้สร้างสิ่งเหล่านั้นด้วยมืออย่างเช่นมนุษย์ แต่เมื่อพระองค์มีพระประสงค์ให้สิ่งใดบังเกิดขึ้น พระองค์ก็ทรงมีพระบัญชาว่า “จงเป็นขึ้น” และสิ่งเหล่านั้น “ก็บังเกิดขึ้น” ตามพระบัญชาของพระองค์

นูรีเฝ้าสดับรับฟังข่าวการแต่งงานของ “บังฏอริค” กับ “การตี่นี” ที่จัดขึ้นในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์มาโดยตลอด และติดตามเรื่องของเขาทั้งสองมาอย่างสม่ำเสมอ ตอนแรกๆ ก็ด้วยความรู้สึกที่ปวดร้าง แต่ระยะหลังๆ มานี้ มีความรู้สึกแปลกๆ และมาคิดได้ว่า ก็ดีเหมือนกันนะ เพราะถ้าแต่งงานไปกับ “บังฏอริค” ในครั้งนั้น ก็อาจจะเป็นความผิดพลาดในชีวิตก็ได้... เพราะ “บังฏอริค” มีจิตใจที่อ่อนไหวง่าย อัลฮัมดุลิลลาฮฺ... ที่เลิกกันเสียแต่ตอนนั้น นูรีเพียงแค่เสียใจ ยังดีกว่าแต่งงานกันแล้วมาเลิกกันทีหลัง เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็จะประมาณไม่ได้ว่าจะต้องสูญเสียอะไรไปมากแค่ไหน...

ฮัจญีฟัยศอลพ่อของ “การตี่นี” ผู้ยึดถือปรัชญาประจำใจว่า “เงินต่อเงิน” ไม่ยอมให้ลูกสาวของตัวเองตกอับอยู่กับผู้ชายที่ไม่มีเงินให้ต่ออีกแล้วอย่าง “บังฏอริค” เพราะพ่อของ “บังฏอริค” ล้มละลายทางเศรษฐกิจ รวมทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโครงการบ้านจัดสรรล้มระเนระนาด และอาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ที่ทำให้ “ปะจูอุมาร์” พ่อของ “บังฏอริค” ต้องล้มเจ็บลงและเสียชีวิตไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

ทัวร์อียิปต์ของฮัจญีฟัยศอลคราวนี้ ขากลับจะต้องมีลูกทัวร์ฟรีเพิ่มขึ้นอีกหลายคน นั่นก็คือหม้ายสาวเจ้าของนาม “การตี่นี”

“บังฏอริค” คงได้รับบทเรียนแล้วว่าความรักที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่พระเจ้า มันมีวันเหือดหายตายจากและลบเลือนไปจากใจของเราเสมอ ก็เช่นเดียวกับความรักที่เกิดขึ้นในหัวใจของนูรี หลังเวลาผ่านไปเพียงแค่ 2 ปี นูรีจึงรู้ว่า แม่พูดความจริง เพราะเวลานี้ หัวใจของเธอว่างเปล่า ทุกหลืบของหัวใจไม่เหลือเยื่อใยให้แก่ชายที่เคยรัก ซึ่งเรียกขานว่า “บังฏอริค” อีกต่อไป

นูรีรำพึงว่า “ใช่จริงนะ...มามา” ความรักไม่ใช่พระเจ้า แล้วทำไมเราจึงยอมมอบใจทั้งดวงให้กับมัน ยอมแม้กระทั่งคิดจะแลกกับอนาคตที่งดงามของตัวเอง และหน้าที่การเป็นคนดีของสังคม ให้มันได้อย่างหน้ามืดตามัว แต่เดี๋ยวนี้นูรีตาสว่างแล้ว จึงบอกกับตัวเองได้เลยว่า ...ที่ผ่านมานั้น “โง่จริงๆ ...นะเรา...”

 

 

Copyrights © 2009 www.nisavariety.com All Rights Reserved.
counter